Thursday, April 30, 2009

ไปดูมาแล้วกับหนัง กำเนิดวูฟเวอรีน (Origins: Wolverine) เรื่องย่อและตัวละคร

เรื่องย่อและตัวละคร ของหนังเรื่อง กำเนิดวูฟเวอรีน Origins: Wolverine มีดังนี้


ภาพยนตร์เรื่อง X-MEN Origins : Wolverine หรือ X–เม็น : กำเนิดวูล์ฟเวอรีน ยังเปิดมนุษย์กลายพันธุ์ที่ผู้ชมเฝ้าตั้งตาคอยจะได้เห็นบนจอภาพยนตร์กัน เต็มๆ หลายคนด้วย ทั้ง Team X กองกำลังพิเศษที่รวบรวมเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์เข้าไว้ด้วยกัน อันประกอบด้วย


1. วูล์ฟเวอรีน (Wolverine) ฮิวจ์ แจ๊คแมน รับบท โลแกน หรือ วูล์ฟเวอรีน



2. พี่ชายของเขาที่ชื่อ วิคเตอร์ ครี้ด (Victor Creed) หรือที่รู้จักกันในนามเซเบอร์ทู้ธ (Sabretooth) เจ้าของพละกำลังมหาศาลที่ยังหาใครมากำราบให้เชื่องไม่ได้




3. เว้ด วิลสัน (Wade Wilson) ที่ต่อมารู้จักกันในนาม เดดพูล (Deadpool) มือปืนรับจ้างสุดไฮเทคที่เชี่ยวชาญการใช้ดาบเป็นอาวุธชนิดหาใครเปรียบไม่ได้




4. สายลับหมายเลขศูนย์ (Agent Zero) นักแม่นปืนฝีมือฉกาจและเป็นผู้เชี่ยวชาญการสืบหาติดตามเป้าหมายที่ยอมรับกัน ว่า เก่งกว่ามือวางอันดับหนึ่ง นักแสดงที่ได้รับบทนี้เป็นหนุ่มนักแสดงลูกครึ่งเกาหลีที่มีผลงานผ่านตาคอซีรี่ย์สเกาหลีในบ้านเราเรื่อง Spring Waltz และ My Name is Kim Sam Soon ชายหนุ่มผู้นี้นามว่า แดเนี่ยล เฮนนี่ ซึ่งจะไปเล่นหนังฮอลลีวู้ดเป็นครั้งแรก...




5. เรธ (Wraith) ผู้มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายสสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง (teleporter) ได้อย่างน่าทึ่ง นักแสดงที่ได้มาร่วมงานก็คือ วิล.ไอ.แอม นักร้องนำของแบล็ค อาย พี จะมารับงานแสดงหนังครั้งแรกในชีวิต...



6. เฟร็ด เจ ดุ๊ค (Fred J. Dukes) หรือเดอะ บล๊อบ (The Blob) เมือกตัวมหึมาสุดแข็งแกร่งและน่าขยะแขยงสุดๆ



7. แบร้ดลี่ (Bradley) มนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถควบคุมพลังไฟฟ้าได้อยู่หมัด นักแสดงที่รับบทคือ โดมินิค โมนาแกห์น จากหนังทีวีชุด Lost และหนุ่มฮ็อบบิทจาก LOTR แต่ดุเหมือนจะแตกต่างจากบาร์เนลในต้นฉบับของมาร์เวลอยู่เยอะเหมือนกัน เพราะตามข้อมูลของมาร์เวล ตัวละครนี้มีลักษณะคล้ายนก
...


8. แกมบิท หรือเรมี่ เลโบ มนุษย์กลายพันธุ์ผู้สามารถทำให้สิ่งของระเบิดได้โดยการอัดพลังใส่เข้าไปใน วัตถุ ในรายงานบอกอีกว่าแกมบิทจะมีบทใหญ่ในหนังเรื่องนี้ และคิทช์ก็เซ็นสัญญาเพื่อแสดงถึง 3 ภาคด้วยกัน


9. ซิลเวอร์ ฟ็อกซ์ คนรักของวูล์ฟเวอรีนในภาคนี้ เธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังในรักการรักษาตัวเองแบบเดียวกับวูล์ฟเวอรี นและเซเบอร์ทูธ จะต่างกันก็ตรงที่ทำได้ช้ากว่า ซึ่งนักแสดงที่มารับบทนั้นคือนักแสดงสาวชาวอังกฤษที่ชื่อ ลินน์ คอลินส์



10. ผู้นำกองกำลังพิเศษหน่วยนี้ก็คือ วิลเลี่ยม สไตร้คเกอร์ (William Stryker) ที่เคยปรากฎตัวมาให้ผู้ชมได้รู้จักกันแล้วใน X2 หรือ X–เม็น 2 แต่ในภาคนี้ผู้ชมจะได้รู้จักที่มาที่ไปนับตั้งแต่กำเนิด ตลอดจนแรงบันดาลใจที่ทำให้เขามุ่งมั่นขนาดนี้อย่างถึงแก่น รวม ถึงความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของเขากับวูล์ฟเวอรีน (Wolverine) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ความผูกพันที่มีต่ออดีตของโลแกน และน่าจะทำนายอนาคตให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย รับบทบาทโดยนักแสดงมากความสามารถอีกคน นั่นก็คือ แดนนี่ ฮุสตัน แวมไพร์ตัวขโมยซีนจาก 30 Days of Night หนังซึ่งดูเหมือนหายไปจากโปรแกรมฉายบ้านเราไปเสียเฉยๆ ทั้งที่น่าจะเป็นหนังที่ถูกคอคนไทย



ฟ็อกซ์ได้ส่ง 5 คลิปแนะนำตัวละครจากหนัง X-Men Origins: Wolverine มาให้เราทำความรู้จักครับ อันได้แก่แกมบิท / เรมี่ (เทย์เลอร์ คิทส์ช) เซเบรทูธ / วิคเตอร์ ครีด (ลีฟ ชไรเบอร์), เด๊ดพูล / เวด วิลสัน (ไรอัน เรย์โนลด์), วูล์ฟเวอรีน / โลแกน (ฮิวจ์ แจ็คแมน) และ เคสเทรล / จอห์น ราธ (วิล.ไอ.แอม) ซึ่งแต่ละคนมาพูดถึงบุคลิกและแรงจูงใจของพวกเขาครับ และมีของแถมอยู่ที่ล่างสุดเป็นหนึ่งคลิปฉากแอ็คชั่นในหนัง



















ภาพยนตร์เรื่อง X-MEN Origins : Wolverine หรือ X–เม็น : กำเนิดวูล์ฟเวอรีน ยังตีแผ่ความสัมพันธ์สุดลึกซึ้งระหว่างโลแกนกับ เคย์ล่า วิลเวอร์ฟ๊อกซ์ (Kayla Silverfox) ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมสุดสลด ชะตากรรมของเคย์ล่าเป็นแรงกระตุ้นให้โลแกนตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ Weapon X ซึ่งเป็นการทดลองลับสุดยอดของกองทัพที่มีมูลค่ามหาศาลนับเป็นพันล้านเหรียญ ซึ่งมีวูล์ฟเวอรีนและเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์อีกหลายๆ คนเป็นกลจักรสำคัญ รวมทั้ง แกมบิท (Gambit) หรือหนุ่มน้อยสก๊อต ซัมเมอร์ (Scott Summers) ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามไซครอป (Cyclops), เอ็มม่า ฟรอสต์ (Emma Frost) มนุษย์กลายพันธุ์สาวสวย, และเดดพูล (Deadpool) ซึ่งท้ายที่สุดแล้ววูล์ฟเวอรีนต้องมาดวลกันตัวต่อตัวด้วย

ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง X–เม็น ภาคก่อนๆ จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่ไม่ไกลจากปัจจุบันเท่าไหร่นัก แต่เหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN ORIGINS: WOLVERINE หรือ X–เม็น: กำเนิดวูล์ฟเวอรีน ซึ่งเป็นปฐมบทของอภิมหาตำนาน X–เม็น เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในทุกๆ ภาค แต่ก็ไม่ได้ถอยย้อนอดีตไปไกลมากนัก น่าจะอยู่แค่ราวทศวรรษ 1970 แต่ก็มีบางช่วงเหมือนกันที่ถอยย้อนกลับไปราวๆ 150 ปี ซึ่งช่วยส่งให้ภาคล่าสุดน่าตื่นตาตื่นใจทั้งในแง่ของความอลังการและความมุ่ง มั่นที่จะผลักดันใน X–เม็น น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
...
...

....ไปดูมาแล้วกับหนัง กำเนิดวูฟเวอรีน (Origins: Wolverine)
สนุกมาก แต่ปวดคอไปหน่อยนั่งหน้า อิคนข้างๆ ก็ดันคุยกันอยู่นั่นแหละ
เคยติดตาม x-man แค่ภาคที่แล้วหรือ X - Man the last Stand แล้วก็มาดูภาคนี้เลย จึงทำให้จำตัวละครไม่ได้ เช่น แกมบิตคือใคร แล้วผู้พันสไตรเกอร์ ภาคที่แล้วคือใคร ...???

ต้องมานั่งค้นหา ว่าใครเป็นใครอีกที
แต่เท่าที่ดูและจำได้ ไอ้ตัวพี่ชายวูฟเวอรีนน่ากลัว บ้ามาก ในภาคนี้ได้เห็นไซคอปหรือสก็อตตอนเด็กๆ ด้วย

อีกอย่าง ซิลเวอร์ ฟ็อกซ์ ตายจริงรึเปล่าใหนว่ารักษาตัวเองได้แค่ทำได้ช้าไม่ใช่หรอ?
แล้วตอนสุดท้ายในโรงหนัง ใครรอนั่งดูจนจบมั่ง ? อยากรู้ว่ามีอะไรต่อ
...
...
...


:: thank ::
www.kratookfilm.com
www.kapook.com

Wednesday, April 29, 2009

ได้ข่าวว่าเกมส์โปรดตัวใหม่ Red Alert3 จะมาแล้ว เร็วๆนี้


YURI AND Red Alert

ได้ข่าวว่าเกมส์โปรดตัวใหม่ Version3 จะมาแล้ว เร็วๆนี้

เกมส์ที่ว่าก็คือ YURI AND Red Alert

จะบอกว่าเป็นเกมส์ที่เล่นเป็นประจำ เล่นแล้วหมดแรง ต้องหลับทุกที

เล่นมาตั้งนานก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า YURI กับ Red Alert

มันเป็นเกมส์ตัวเดียวกัน หรืออันใดอันหนึ่งเป็นตัวเสริม

จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ขี้เกียจค้นหา

เพราะสิ่งที่จะเขียนข้างล่างนี้มันเป็นอะไรที่ อเมซิ่งมากๆ

ก็ Red Alert3 นี่สิมันเป็นอะไรที่โอโห ประมาณว่า คอมชั้นจะค้างรึเปล่าหว่า

เพราะอาวุธ รถถัง ต่างๆ จะแข็งแกร่งขึ้น เก่งขึ้นกว่าเก่า

รู้สึกว่าจะมีบิลลาดินด้วยนะ

แล้วก็มีหมีเหมือนในหนังอะไรซักเรื่อง

ภาพของ Red Alert3





แค่ตัวล่าสุดที่เล่น คอมพ์ยังอืดซะขนาดนั้น คอมพมันอ่อน

แต่การ์ดจอไม่ออนนะจะบอกให้

ปล. เล่นเกมส์พอประมาณ เล่นเอาม่วน ฉะนั้นโกงเงินมันลูกเดียว เราจะได้ชนะชัวร์ หึหึ
ปล.อีกรอบ ผู้หญิงเล่นยูริไม่ได้แปลว่าเป็นทอมเด้อ เป็นผู้หญิงค่ะ

เว็บของ Red Alert3
http://www.ea.com/redalert/

ดูคลิป Red Alert3 ไปดูพระเดชของเจ้า RED 3
http://inmyhead.exteen.com/20080819/red-alert-3-wow


------------------------------------------------------------
บทความนี้ย้ายมาจากบล็อก fayjaa.wordpress.com
เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2551
ย้ายมาเมื่อ 29 เมษายน 2552

วัดนรก วัดสวนแก้ว จ.ปราจีนบุรี มูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว 2 ฆ่าหมูในวัด

พอดีได้ fw mail มา เป็นอีเมลล์ที่เล่าว่าวัดแห่งหนึ่ง ฆ่าหมูที่ถูกไถ่ชีวิต ลองอ่านกันดูนะคะ

> > วัดนรก
> > ช่วยอ่านแล้วส่งต่อประจานมันด้วยนะ
> >
> > ในฐานะนิสิตสัตวแพทย์ขอประนามในวันพฤหัสที่
> > 19 ม. ค. ที่ผ่านมา
> > แฟนของผม
> > ยืนรอรถเมล์อยู่บริเวณสำโรงเวลาประมาณบ่าย
> > 5 โมงเย็นมีรถบรรทุกหมูที่จะไปส่งโรงฆ่าสัตว์แล่นผ่านมาได้มีหมูตัวหนึ่ง
> > ดิ้นรนหลุดออกจากกรง
> > ตกลงมาจากรถกระบะลงมาอยู่ที่ริมฟุตบาท
> > ตรงหน้าแฟนผมเกิดความสงสารสัตว์ที่จะถูกนำไปโรงฆ่าเธอโทรศัพท์หาผม
> > เราตกลงกันว่าจะติดต่อขอซื้อหมูตัวนั้น
> > ในราคา
> > 6000บาทแล้วให้นำไปส่งที่บ้าน
> > ใน จ . สมุทรปราการ
> > ที่อยู่ห่างไปประมาณ 10 กม. มาวันแรกเค้ายังเดินไม่ได้
> > เนื่องจากเจ็บที่ขาหลังด้านขวาอีกทั้งน้ำหนักมากถึง
> > 107 กิโล ร่วมกับเพลียจากการเดินทางวันแรกจึงให้น้ำให้อาหาร
> > แล้วมันก็นอนพัก
> > เราก็เป็นห่วง
> > กลัวมันจะไม่สบายเราได้ตั้งชื่อมันว่า
> > เจ้าสำโรง
> > ตามสถานที่ที่พบมันเช้าวันต่อมา
> > อาการมันดีขึ้นสดใสขึ้น
> > กินน้ำได้มากเราได้ไปพาสัตวแพทย์ที่หน้าซอยบ้านมาตรวจ 2 ครั้งแพทย์บอกว่าเจ้าสำโรงอ่อนเพลีย
> > และเจ็บที่ขา
> > ตรวจแล้วกระดูกไม่หักแต่กล้ามเนื้ออักเสบ
> > ให้นอนพักผ่อนเนื่องจากเกรงใจเพื่อนบ้านที่ติดกันเนื่องจากหมูร้องเสียงดังจึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่
> > วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรีเนื่องจากเคยได้ยินว่ามีรับสัตว์ที่ไถ่ชีวิตทางวัดบอกว่ามีการรับ เลี้ยงสัตว์ที่ไถ่ชิวิตจริงๆแต่ที่นนทบุรีเต็มแล้วทางวัดมีสาขาที่อ . กบิณทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีชื่อมูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว 2( วัดนรก)
> > รับเลี้ยงสัตว์ที่ถูกไถ่ชีวิตทางวัดที่นนทบุรี
> > ส่งวัว
> > ควายไปไว้ที่นั่นแล้วสิบกว่าตัว
> > รับเลี้ยงได้
> > จึงติดต่อให้ทางวัดนำรถมารับโดยจ่ายค่าขนส่ง
> > 1000 บาท
> > ตกลงให้มารับในวันเสาร์ในวันเสาร์
> > วันนี้เป็นวันที่รถของทางวัดจะมารับเจ้าสำโรงวันนี้มันดีขึ้นมากพยายามลุกเดิน
> > 3 ขา แต่ยังไม่ค่อยไหว
> > กินอาหารได้ดีขึ้นมากเราเลี้ยงเจ้าสำโรงด้วยข้าว
> > กล้วย ผักกาด
> > ผักบุ้งวันนี้เราเลยได้รู้ว่าเจ้าสำโรงชอบกินผักบุ้งมากนึกแล้วก็ใจหาย เหมือนกันเพราะวันนี้รถจะมารับมันไปแล้ววันนี้เจ้าของเขียงหมูที่เราซื้อ เจ้าสำโรงมาแวะมาเยี่ยมที่บ้านด้วย
> > แล้วก็ให้คำแนะนำในการเลี้ยงรวมทั้งถามอาการ
> > เจ็บขาของมัน(เราเองก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าของเขียงหมูจะเป็นห่วงตามมาเยี่ยมถึงบ้านด้วย
> > เค้าบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมอีกเราบอกเค้าว่าวันนี้ทางวัดจะมารับมันไปเลี้ยงแล้วไม่ต้องมาแล้วก็ได้ครับ
> > ขอบคุณมากๆ )ประมาณ
> > บ่าย 3 โมง
> > รถของทางวัดก็มารับเราช่วยกันอุ้มเจ้าสำโรงขึ้นรถอย่างทุลักทุเลวันนี้เจ้าสำโรงร้องดังมากๆเหมือนมันไม่อยากไป
> > เราเองก็คิดถึงมัน
> > เลยขอแผนที่ทางวัดไว้เผื่อวันหลังจะตามไปเยี่ยม
> > ตกเย็น
> > ไปงานรับปริญญาน้องชายแฟนกลับมานอนที่บ้านนอนไม่ค่อยหลับ
> > เพราะคิดถึงเจ้าสำโรง
> > มันรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกน่าแปลกที่แฟนก็คิดเหมือนกันวันรุ่งขึ้นจึง ตัดสินใจไปเยี่ยมมันที่โน่นเลยเผื่อขาดเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจะได้ช่วย กันไปถึงวัดตอนบ่ายๆ
> > บริเวณมูลนิธิร่มโพธิ์แก้วจะมีลักษณะเป็นโรงจำหน่ายของที่รับบริจาคมา
> > ละมีการทำสวนพืชไร่หลายชนิดจึงไปติดต่อกับพระที่ดูแลที่นี่บอกท่านว่ามาเยี่ยมเจ้าสำโรงที่รถนำมาส่งเมื่อวาน
> > ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่วัดและพระรูปอื่น
> > ทำหน้าแปลกๆ
> > และซุบซิบกันไปมาและได้เรียกพระท่านนี้เข้าห้องไปคุย
> > ปิดประตูอยู่พักหนึ่ง
> > ท่านก็ออกมาผมเลยบอกว่ารบกวนท่านบอกทางไปที่เลี้ยงสัตว์เพราะว่าวันนี้ไปแวะ ซื้อผักบุ้งจากห้างมาหอบใหญ่เพราะรู้ว่าเจ้าสำโรงชอบพระท่านบอกว่าเดี๋ยวพา ไปเอง
> > ท่านพาเดินดูที่นั่น
> > ที่นี่
> > พาไปดูสวนผมก็บอกท่านว่าขอไปดูหมู
> > ท่านก็บอกว่าทางนี้
> > พอไปถึงก็ไม่มีท่านก็บอกว่าอยู่อีกที่หนึ่ง
> > วนไป วนมานานถึง 2
> > ชั่วโมง
> > ก็ยังไม่พบระหว่างนั้นพระท่านนี้ก็เล่าว่า
> > วัวที่นี่ไม่มีแล้วเนื่องจากนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนชาวบ้านที่มาช่วยงานแทน เงินเดือน(แล้วถ้าหากชาวบ้านที่ได้นำไปขายหรือฆ่าล่ะ)ระหว่างเดินอยู่
> > พบคอกเลี้ยงลูกหมูป่าคอกเล็ก ๆ ประมาณ 10 ตัวไม่พบวัวซักตัวหลังจากเดินมานานก็ยังไม่พบ
> > จึงถามพระ
> > ท่านก็บอกว่าหมูเมื่อวานป่วยนำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้ว
> > ผมเลยถามท่านว่าปศุสัตว์ไปทางไหนจะตามไปเยี่ยมท่านก็บอกว่าวันหยุดราชการไม่ เปิดผมก็ถามท่านว่าแล้วเมื่อวานวันหยุดราชการปศุสัตว์มาตรวจได้ยังไงท่านก็ เงียบไปบ่ายเบี่ยงต่างๆแล้วบอกผมว่าเดี๋ยวต้องถามคนดูแลสัตว์อีกทีผมก็ บอกว่างั้นขอพบ
> > พระบอกว่าคนนี้ไม่อยู่
> > กลับกรุงเทพผมบอกว่างั้นจะรอพบสุดท้ายคนๆนี้ก็มา
> > หลังจากรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงมันบอกผมว่าหมูเมื่อวานป่วย
> > เลยให้สัตวแพทย์มาดูและนำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้วผมบอกจะตามไปดู
> > ก็บอก ว่าปิดราชการ
> > ไปไม่ได้ผมถามว่าวั้นสัตวแพทย์มาได้ยังไงมันตอบว่าสัตวแพทย์มาดูแล้ว
> > บอกว่าอาการมันหนัก
> > เลยจัดการไปแล้ว !!!ผมตกใจมากถามว่าสัตวแพทย์ที่มาดูชื่ออะไร
> > จะตามไปถาม
> > ถามไปถามมาสุดท้ายมันบอกผมว่ามันตัดสินใจฆ่าเอง
> > โดยเชือดแบ่งเนื้อแจกจ่ายไปแล้วและมันบอกว่าขอรับผิดเอง
> > มันอ้างว่าคาดไม่ถึงว่าผมจะตามไปดูมันบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีคนที่ไถ่
ชิวิตสัตว์ตามไปดู มีผมเป็นคนแรก ถ้ามันรู้ว่าผมมามันคงไม่ฆ่าหรอก
> > ทั้งผมและแฟนผมเสียใจมากนึกไม ่ถึงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้
> > ในวัดกับสัตว์ที่ไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่า
> > คิดไม่ถึงว่ามาถึงที่นี่มันไม่ให้เค้ากินน้ำกินอาหารด้วยซ้ำ
> > กลับฆ่ามันเหมือนถูกส่งโรงฆ่าสัตว์ผมและแฟนผมเสียใจมาก
> > เธอร้องไห้ตลอดเกือบทั้งวันหลังจากนนั้นผมจึงคิดว่าอย่างน้อยต้องประกาศให้ สังคมรับรู้ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นและคงต้องพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ แบบนี้ขึ้นอีกขอความเห็นใจจากสังคมด้วยครับจากคุณ : นพ .

...อันที่จริง เมลล์นี้เคยได้รับนานแล้ว อ่านอีกทีก็ยังสงสารหมูตัวนั้น และเกลียดวัดนี้ได้ทุกครั้งไป

แต่วันนี้พอมีสติ เลยนึกว่ามันเป็น fw mail ที่อาจจะเป็นจริง หรือไม่มีความจริงเลยก็ได้

และแล้วก็ต้อง search หาใน google ก็ไปเจอคำบอกเล่าที่ว่า ..ลองอ่านกันดู

" จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 9 ฉบับที่ 2344 ประจำวัน จันทร์ ที่ 4 สิงหาคม 2008
โดย พระพยอม กัลยาโณ

เรื่องนี้ต้องชี้แจงโทษวัดฆ่าหมูบริจาค
สิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ตั้งวัดสวนแก้วขึ้นมาคือ การกล่าวหาว่าวัดนำหมูบริจาคไปฆ่ากิน วันนี้ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ข้อกล่าวหาก็ยังอยู่ ทั้งๆที่วัดเคยชี้แจงผ่านสื่อและมีการพิสูจน์ความจริงไปแล้ว แต่เรื่องดังกล่าวก็ดูว่ายังไม่จบ

เรื่องที่อาตมาจะกล่าวนี้ได้ผ่านไปนานแล้วกว่า 2 ปี และอาตมาเองก็เคยชี้แจงต่อสาธารชนผ่านสื่อมวลชนไปแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่ายังไม่จบ เพราะยังมีคนเข้าใจผิดอยู่ เพราะเรื่องราวที่ทำให้เข้าใจผิดนั้นยังมีวนเวียนอยู่ในเว็บไซต์ ใน E-mail ซึ่งได้ส่งต่อกันไปเป็นทอดๆ จึงทำให้เรื่องนี้ไม่จบสักที มันเหมือนเป็นการหยิบเอาเรื่องนี้มาดิสเครดิตกัน

เรื่องที่ว่าก็คือ กล่าวหาว่าวัดสวนแก้วเชือดหมูที่ชาวบ้านไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่านำไปเชือดกิน เรื่องนี้เป็นเรื่องหนังไม่ได้รองนั่ง เนื้อก็ไม่ได้กิน แถมยังเอากระดูกมาแขวนคอ ถ้าใครได้อ่านในเว็บไซต์แล้วเชื่อตามนั้นก็คงบอกได้ว่า “หูเบา” เชื่อง่ายไปหน่อย เพราะมันส่อว่าเป็นความเสียหายต่อสังคมอย่างหนึ่งคือ ไม่สืบหาข้อมูลว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร

ถ้ายังไม่ทราบอาตมาจะบอกให้ เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ เมื่อ 2 ปีกว่ามีคนใจบุญพบกับเหตุการณ์รถขนหมูเข้าโรงฆ่าสัตว์ทำหมูตัวหนึ่งตกจากรถ และยังไม่ตาย ด้วยความสงสารคนใจบุญคนนั้นจึงขอไถ่ชีวิตหมู่ตัวนั้นมาในราคา 6,000 บาท แล้วนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ปรากฏว่าหมูได้รับบาดเจ็บ ซี่โครงหักเข้าไปทิ่มปอด (รู้ทีหลังจากปากคำของสัตวแพทย์) ด้วยความเจ็บปวดหมูก็ร้องทั้งคืนจนชาวบ้านไม่พอใจ คนใจบุญจึงนำมาถวายให้วัดสวนแก้วซึ่งมีหมูอยู่แล้วหลายตัว จึงได้ส่งมอบไปให้โครงการร่มโพธิ์แก้วที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพราะที่นั่นยังรองรับได้และมีคนดูแลเยอะ

หลังจากหมูไปอยู่ที่โครงการร่มโพธิ์แก้ว สาขากบินทร์บุรีแล้ว เวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ คนใจบุญผู้นี้ได้เดินทางไปเยี่ยมหมูอีกครั้งที่กบินทร์บุรี แต่ไม่พบหมูของตนจึงได้ถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ผู้รับผิดชอบโครงการ และไม่รู้สาเหตุการตายของหมู รู้แค่หมูตายและมีการชำแหละแบ่งเนื้อกัน จึงตอบไปตามภาษาชาวบ้านที่ไม่รู้และไม่ได้ระวังคำพูดว่า “เชือดแล้ว” ทำให้เจ้าของหมูคิดว่าเจ้าหน้าที่โครงการฆ่าหมูกินแล้ว จึงโกรธใหญ่ทั้งที่ยังไม่รู้ความจริง กลับมาเขียนข้อความหาว่าวัดสวนแก้วฆ่าหมูบริจาค ส่งเผยแพร่ทั้งทางเว็บไซต์และสื่อมวลชนจนเป็นข่าวครึกโครม จนมีคนด่าทั้งอาตมาทั้งวัดว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นวัดที่เลวทรามโหดร้าย ใจดำอำมหิต แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าคนใจบุญได้หรือไม่ ด่ากระทั่งวัดกระทั่งพระ บอกกับคนอื่นว่าตัวเองเป็นคนใจบุญ แต่เพราะหมูร้องด้วยความเจ็บปวดจนชาวบ้านรำคาญก็โยนภาระมาให้วัดกับพระ แล้วยังตามมาราวีให้ร้ายป้ายสีกับวัดอีก

ความจริงที่พิสูจน์ได้ก็คือ หมูตายตั้งแต่ 2 วันแรกที่ไปอยู่ที่นั่นแล้ว ตายด้วยอาการบาดเจ็บของมันเอง คนงานของโครงการร่มโพธิ์แก้วซึ่งเป็นชาวบ้านย่านนั้นพอพบว่าหมูที่บริจาคมา ตายจึงแจ้งต่อปศุสัตว์อำเภอ ซึ่งเป็นระเบียบของโครงการว่าถ้าสัตว์ในโครงการตายต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์ทราบเพื่อหาสาเหตุการตาย (เกรงว่าจะเป็นโรคติดต่อ) ผลการตรวจของปศุสัตว์คือ หมูตัวนี้ช้ำใน ประกอบกับกระดูกที่หักแทงเข้าที่ปอด เมื่อหมูตายและปศุสัตว์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นโรคตาย เจ้าหน้าที่โครงการและชาวบ้านจึงชำแหละแบ่งเนื้อไปทำกิน ส่วนที่เหลือนำไปฝังเพราะกินไม่หมด

เรื่องที่เกิดจึงเป็นเพราะคนใจบุญนั้นไม่ได้ฟังหรือไม่พยายามเข้าใจ คิดแต่ว่าวัดเชือดหมูตัวเองไปกิน ที่วัดสวนแก้วไม่ว่าจะเป็นวัวก็ดี แพะก็ดี หมาก็ดี เลี้ยงไว้ตั้ง 700-800 ตัว ถามว่าถ้าโหดอย่างนั้นวัดจะเลี้ยงพวกนี้ไว้เป็นภาระทำไม อยู่แบบสบายๆไม่ต้องรับสัตว์พวกนี้มาเลี้ยงจะไม่ดีกว่าหรือ ตั้งแต่อาตมาตั้งวัดสวนแก้วขึ้นมายังไม่เคยมีใครมาใส่ร้ายให้เสียหายต่อชื่อ เสียงได้เท่ากับเหตุการณ์ครั้งนี้เลย

อาตมาจึงอยากฝากไปยังเว็บไซต์ต่างๆว่า อยากให้ช่วยกันหยิบข้อความตรงนี้ลงไป เพื่อช่วยทำให้ข้อเท็จจริงกระจ่าง จะได้เกิดความเป็นธรรมกับวัดสวนแก้วบ้าง คำพูดที่เขาบอกว่าไม่ศรัทธาวัดนี้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่เชื่อว่ายังมีคนเข้าใจวัดสวนแก้วอยู่ แต่ขออย่าพยายามดึงคนอื่นให้มาเข้าใจผิดๆแบบที่คุณเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง

อาตมาจึงขอชี้แจงความเป็นจริงให้ทราบอย่างที่ได้กล่าวมา หากใครมีข้อสงสัยหรืออยากรู้ว่าหมูตัวนี้ตายอย่างไรให้เช็กไปได้ที่ปศุสัตว์ อำเภอกบินทร์บุรี จะได้รู้ความจริง และไม่ต้องฟังความข้างเดียว น้ำหนักหูจะได้ไม่เอียงให้เสียศูนย์
เจริญพร
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=11043 "


เสียดายลิงค์เข้าไม่ได้แล้ว อ่านแล้วถึงได้อารมณ์สงบลงไปบ้าง

ลองนึกถึงฝ่ายของวัด ก็อาจจะเป็นความจำเป็นบางอย่างที่ต้องทำแบบนั้น

ส่วนนิสิตแพทย์และแฟนผู้ใจบุญคนนั้นก็คงเสียใจ และสงสารหมูตัวนั้นมาก

เพราะได้ชื่อว่าได้เป็นผู้ให้ชีวิตสัตว์ เมื่อรู้ว่าหมูถูกฆ่า ก็คงโกรธ

จนลืมไปว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันส่งผลกระทบต่อวัด สถานที่ของพระพุทธศาสนา

ทำให้คนจำนวนมากที่รับเมลล์เสื่อมศรัทธาในตัวพระสงฆ์ และศาสนา .. ถ้าวัดไม่ได้ตั้งใจฆ่าหมูนะคะ

..แต่ถ้า วัดตั้งใจฆ่าหมู ตามที่ fw mail บอก เราก็คงต้องทำใจ อย่าไปแช่งพระ แช่งวัดเลยค่ะ

คิดซะว่า การกระทำใดๆ ย่อมมีผลกระทบ สะท้อน

ทำไม่ดี ก็ได้รับผลไม่ดี เป็นการตอบแทน

อย่า FW ต่อไปอีกเลย

... คิดให้ดีก่อนที่จะ Forword email ...


ข้อความสีน้ำเงิน เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ แล้วแต่ใครจะคิดแบบใหน



บทความนี้ย้ายมาจากบล็อก fayjaa.wordpress.com

เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2551

ย้ายมาเมื่อ 29 เมษายน 2552

Tuesday, April 28, 2009

มะเมียะ

วันอาทิตย์ วันหยุด หลังจากนั่งทำงานเสร็จ

ก็เข้า internet อ่านข่าวคลายเครียดซะหน่อย พอดีไปเจอข่าวที่ว่า ” ตอกย้ำ “ตำนานรักอมตะ” ที่หลายคนมิอาจลืมเลือน “

เป็นเรื่องราวความรักของคู่รักในอดีต

ซึ่งมีเรื่องราวของ มะเมี๊ยะ ด้วย

เรื่องเล่าของมะเมียะ เป็นเรื่องที่ชอบมากเรื่องหนึ่ง เวลาเจอหนังสือที่เกี่ยวกับมะเมี๊ยะมักจะ ไม่อ่านไม่ได้เลย

จะเป็นเรื่องจริง หรือเป็นแค่เรื่องที่เอามาโยงกันให้เป็นเรื่องจริง จะยังไงก็ยังชอบ

เป็นเรื่องที่ขลังดี และคนในเรื่องก็มีชีวิตจริงๆ ไม่ได้แต่งขึ้นมา เช่นเจ้าชายน้อยศุขเกษม , เจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่

ซึ่งได้ไปเจอรูปมา


รูปแรก เจ้าชายน้อยศุขเกษม คนรักของมะเมี๊ยะ (เพิ่งเห็นครั้งแรก หล่อไม่เบา)



รูปที่สอง เจ้าชายน้อยศุขเกษมกับเจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่



ถึงแม้ไม่มีรูปของมะเมี๊ยะ แต่ก็พร้อมเชื่อว่ามะเมี๊ยะมีชีวิตในช่วงนั้นจริงๆ




เพราะเป็นคนชอบเรื่องราวชีวิต และความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน

(อิทธิพลมาจากแม่ ชอบเล่าเรื่องเก่าๆ ให้ฟัง)

ชอบดูคุ้มเจ้าพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ที่แม่ริม

ถ้าใครชอบแนวนี้ละก็ ขอแนะนำให้ไปเที่ยวที่คุ้ม เพราะที่นั่นเป็นที่อยู่จริงๆ ของท่าน

มีรูป มีของใช้ประจำวัน จัดวางไว้ในคุ้มนั้นเยอะไปหมด

เข้าไปแล้วขนลุกเลยค่ะ ไม่ได้เป็นเพราะเจอผีนะ

เป็นเพราะอะไร?อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน คนชอบเหมือนกันคงรู้ดีเนอะ..




บทความนี้ย้ายมาจากบล็อก wordpress
ย้ายมาเมื่อ 27 เมษา 2552
เขียนเมื่อ 15 กุมภา 2552

Monday, April 27, 2009

เปิดสอบแข่งขันเป็นข้าราชการ ภาค ก จะไปสอบกับเค้าด้วย

มาอีกแล้ว เพิ่งอัพไปเมื่อวาน มันมาอัพอีกแล้ว…

มันจะว่างอะไรปานนั้น ..คือเปล่าหรอกค่ะ ก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้น(มั้ง)

มันมีเรื่องให้เขียนอยู่ในหัวตลอดเวลา พอว่างจากงานก็เลยมานั่งเขียนกันลืมไว้นั่นเองค่ะ

เรื่องแรก เป็นข่าวการสมัครสอบแข่งขันเป็นข้าราชการ ข่าวนี้มาจากเพื่อนเตย ซึ่งเจ้แกเป็นขาใหญ่อยู่ที่ อบต.สุเทพ เชียงใหม่

(ข่าวที่เกี่ยวกับการสอบข้าราชการต่างๆ เจ้เตยแกจะอัพเดทอยู่ตลอดเวลา)

การสอบนี้ เป็นการสอบเพื่อเป็นบันไดขั้นต้น ที่จะก้าวไปเป็นข้าราชการ(ทั่นผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน ณ ตอนนี้)

โดยจะต้องไปสมัครสอบ ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน 2551 ถึง 11 กรกฎาคม 2551

แล้วจะสอบอีกที ประมาณเดือนกันยา (เจ้เตยวิเคราะห์มา) สอบคราวนี้ ตั้งใจว่าจะไปสอบกับเค้าด้วย

เพราะมีเวลาอ่านหนังสือหลายเดือนอยู่เหมือนกัน ถ้าจู่ๆ มาบอกว่ามีการสอบข้าราชการอาทิตย์หน้า

เราคงจะพาอ่องออที่มันว่างเปล่าไปสอบสู้เค้าไม่ไหว แต่คราวนี้ มันมีโอกาสมากกว่า

ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบระบบของราชการซักเท่าไหร่ แต่มักจะมีคนมาเป่าหูอยู่ตลอดเวลา ว่าข้าราชการรวย Rich มากๆ

ถอยรถออกมาเป็นคันๆ โบนัสเป็นหมื่นเป็นแสน โอ้ ป๊าดโซ๊ะ

แค่นี้ก็เป็นเหตุผลที่ลบล้างความที่ไม่ชอบระบบราชการออกไปจากใจได้หมดสิ้น หึหึ (^฿^)


และอีกอย่างการทำงานราชการ ก็เหมาะกับการทำเว็บอย่างยิ่ง ยังไงน่ะหรอ

..ก็นั่งทำงาน แปดโมง ถึงสี่โมง หรือห้าหว่า(ไม่เคยเป็นราชการนิ ไม่รู้)

ก็กลับบ้านมานั่งทำเว็บหาเงินได้แบบชิวๆ หยุดเสาร์อาทิตย์อีกต่างหาก นั่งทำเว็บกันม่วนหลาย วันหยุดก็เยอะ

ซึ่งก็ต่างกับงานเอกชน ที่วันทำงานเยอะ ใช้เวลานั่งทำงานในที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้านตัวเองในอัตรา 80/20

(จากการวิเคราะห์ด้วยตนเอง) แบบนี้จะมีครอบครัวไปทำแป๊ะอะไรมิทราบคะ

..รู้สึกว่า contain นี้น่าจะใส่ password นะเนี่ย ..

(ไม่ขอพูดถึงผลตอบแทนเพราะแต่บริษัทให้ไม่เหมือนกัน)

จบข่าว!! เรื่องสอบภาค ก เรื่องที่สองเป็นเรื่องงาน ที่น่าท้าทายอย่างยิ่ง ขอรวบรวมอ่องออก่อนที่จะเขียน ติดตามกันต่อไป

ลิงค์รายละเอียดที่เปิดสอบภาค ก (ไม่แน่ใจว่า คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะเข้าดูได้รึเปล่านะคะ)

http://www.paikad.com/cmiboard/viewtopic.php?t=829


บทความนี้ย้ายมาจากบล็อกเก่าที่ wordpress
เวลาเขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2551
ย้ายมาเมื่อ 27 เมษายน 2552

Sunday, April 26, 2009

ไข้หวัดนกไป ไข้หวัดหมูมา

เมื่อปีที่ผ่านๆ มา ไข้หวัดนกระบาด ทำให้คนแตกตื่นกันทั่วโลก
ฆ่านก ฆ่าไก่กันไปหลายล้านตัว คราวนี้ ได้ข่าวว่าไข้หวัดหมูระบาดที่แม็กซิโกอีกแล้ว
ท่าทางไวรัสจะร้ายไม่แพ้ไข้หวัดนก เพราะ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนแล้ว
และ maxico เองก็ตายไปหลายคนแล้วเหมือนกัน
ก็หวังว่าคราวนี้ หมูคงไม่โดนฆ่ายกเล้าอีกนะ

...ถ้ามีไข้หวัดหมามาอีก คนรักหมาคงหัวใจสลายเป็นแน่...


เกี่ยวกับ ไข้หวัดหมู
โรคไข้หวัดหมู ที่เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สเตรพโตคอคคัส ซูอิส (Streptococcus suis) แบคทีเรียนี้จะพบอยู่ในช่องปากและโพรงจมูก จึง ทำให้เชื้อแพร่ระบาดในหมูด้วยกันได้ง่าย หมูที่ติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการของโรคเนื่องจากมีความต้านทานโรคนี้ได้ แต่ในภาวะที่หมูมีความต้านทานโรคลดลง เช่น หมูที่มีความเครียดเนื่องจากการเลี้ยงอย่างแออัดหรือได้รับอาหารไม่เพียงพอ หรือการเลี้ยงหมูด้วยการใช้ไฟฟ้าช็อร์ตเพื่อให้หมูมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอด เวลาจะได้ให้เนื้อแดงมากและไขมันน้อย สภาพเช่นนี้จะทำให้หมูอ่อนแอ เป็นผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ง่ายด้วยแบคทีเรียสเตรพโตคอคคัสซู อิส ถ้าหากนำเนื้อหมูที่ป่วยเป็นโรคไปรับประทานจึงมีโอกาสติดเชื้อโรคนี้ได้ง่าย เช่นกัน

องค์การอนามัยโลกได้เคยให้ ข้อมูลว่าในอดีตไม่เคยพบโรคไข้หวัดหมูที่เกิดจากแบคทีเรียสตรพโตคอคคัสซูอิส ได้แพร่ระบาดจากหมูมาสู่มนุษย์ แต่การที่มีพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคไข้หวัดหมูได้นี้ แสดงว่าแบคทีเรียดังกล่าวสามารถปรับตัวให้สามารถเจริญได้ในมนุษย์ ทำให้เกรงว่าโรคไข้หวัดหมูจะกลายเป็นโรคระบาดรุนแรงได้ในอนาคต

ในประเทศไทยช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคไข้หวัดหมูเฉลี่ยแล้วปีละประมาณ 40 คน มีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 10 สำหรับ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูจะเริ่มต้นจากเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู คนฆ่าหมูหรือชำแหละเนื้อหมู คนขายเนื้อหมู รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับหมู บุคคลเหล่านี้จะเป็นกลุ่มแรกที่มีโอกาสสัมผัสกับหมูที่เป็นโรคจึงมีความ เสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดหมูอย่างมาก ส่วนผู้บริโภคก็อาจติดเชื้อได้จากการรับประทานเนื้อหมูที่เป็นโรคและไม่ปรุง สุก


อาการโรคไข้หวัดหมู

เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะพักตัวประมาณ 1-3 วันจึงปรากฏอาการ อาการที่พบระยะ แรกจะมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดตามข้อ ต่อมาเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิตจึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดินเอนไปเอนมาเหมือนคนเมาสุรา นอกจากนี้อาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ อย่างไรก็ตาม โรคนี้รักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะ ถ้าหากสามารถนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลได้ทันท่วงทีจะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอด ชีวิตได้ง่าย

ที่มา:
รองศาสตราจารย์บัญญัติ สุขศรีงาม
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยบูรพา
http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=1687


ข่าวไข้หวัดหมู อื่นๆ
ข่าวจากโพสต์ทูเดย์
ไข้หวัดหมูระบาดในเม็กซิโก คร่าชีวิตแล้ว 68 คน ขณะที่ทั่วโลกเตรียมป้องกันการระบาด

โฮ เซ่ อังเกล คอร์โดวา รมว.สาธารณสุขของเม็กซิโก เปิดเผยว่า เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในประเทศ และได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วถึง 68 ราย ขณะที่มีผู้ติดเชื้อดังกล่าวอีก 1,004 ราย

อย่างไรก็ตาม คอร์โดวากล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับ มาร์กาเร็ต ชาง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ถึงเรื่องนี้ เชื่อว่ายังไม่จำเป็นต้องปิดชายแดนเม็กซิโก และไม่จำเป็นต้องจำกัดชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศ แต่ทางเม็กซิโกได้รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสด้วยการปิดสถานที่สาธารณะ ขณะที่องค์การอนามัยโลกจะจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญฉุกเฉินในวันเสาร์นี้ เพื่อประเมินความรุนแรงของโรคติดต่อนี้ และเสนอให้ความช่วยเหลือแก่เม็กซิโกในทุกๆด้าน

ทั้งนี้ คอร์โดวากลาวว่า เม็กซิโกไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนยา โดยปัจจุบนมีอยู่มากกว่า 1 ล้านโดส เนื่องจาก WHO จะส่งยาและความช่วยเหลือทางเทคนิกมาให้

ข่าวเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในเม็กซิโก สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันหรือใกล้เคียง โดยศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมู 7 รายในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ก่อนที่จะกล่าวในเวลาต่อมาว่า กรณีของผู้ป่วยในสหรัฐนั้น เป็นการติดเชื่อจากคนสู่คน

หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดาก็สั่งการให้มีการตรวจสอบตัวอย่างจากเม็กซิโก และได้ยืนยันว่าพบเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์ H1N1 เป็นจำนวน 18 กรณี ซึ่ง 12 กรณีในจำนวนนี้ มีโครงสร้างพันธุกรรมแบบเดียวกับที่พบในแคลิฟอร์เนีย

ขณะเดียวกันหน่วยงานสาธารณสุขของเปรูได้นำมาตรการเฝ้าระวังมาใช้ อาทิการตรวจสอบประชาชนที่เดินทางมาจากเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันคนเหล่านี้นำเชื้อโรคเข้ามาในประเทศ

ด้านมาเรีย ลุยซ่า อาวีลา รมว.สาธารณสุขของคอสตาริกา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า คอสตาริกาได้ประกาศเตือนให้ประชาชนทั่วประเทศตื่นตัวและระมัดระวังเกี่ยวกับ สุขภาพอนามัยแล้ว


Fighting Deadly Flu, Mexico Shuts Schools

Published: April 24, 2009 New York Times
New York Times

Mexico City — Mexican officials, scrambling to control a swine flu outbreak that has killed as many as 60 people and infected possibly hundreds more in recent weeks, closed museums and shuttered schools from kindergarten to university for millions of young people in and around the capital on Friday, and urged people with flu symptoms to stay home from work.

“We’re dealing with a new flu virus that constitutes a respiratory epidemic that so far is controllable,” Mexico’s health minister, Jose Angel Cordova, told reporters after huddling with President Felipe Calderón and other top officials Thursday night to come up with an action plan. He said the virus had mutated from pigs and had at some point been transmitted to humans.

The new strain contains gene sequences from North American and Eurasian swine flus, North American bird flu and North American human flu, according to the Centers for Disease Control and Prevention. A similar virus has also been found in the American Southwest, where officials have reported eight non-fatal cases.

Most of Mexico’s dead have been young, healthy adults, and none of them have been over 60 or under three years old, the World Health Organization said. That alarms health officials because seasonal flus cause most of their deaths among infants and bedridden old people, but pandemic flus — like the 1918 Spanish flu, and the 1957 and 1968 pandemics — often strike young, healthy people the hardest.

งานศิลปะสมัยเป็นเด็กมัธยม คิดถึงบ้านหลังเก่าที่ อ.ปาย

ตอนเด็กๆ เป็นคนที่ชอบวาดรูปมาก วาดได้เป็นเล่มๆ ถ้าช่วงปิดเทอม จะชอบมาก เพราะจะ
ได้มีเวลาวาดรูป วาดโดยใช้ดินสอ 2B กับสมุดวาดภาพ เล่่มเล็กๆ

ชอบขีดๆเขียนๆ แต่พอโตขึ้น ไม่มีโอกาศวาดรูปแล้ว ก็ยังนึกเสียดายอยู่

เลยเอารูปเก่าๆ มาแปะไว้ดู ให้นึกถึงสมัยเด็กๆ





รูปนี้เป็นรูปบ้านหลังเก่า ที่เคยอยู่ตอนนั้น ตอนวาดต้องไปนั่งวาดในเขตบ้านของคนอื่น เพื่อที่จะได้เห็นภาพบ้านได้เต็มตา เป็นบ้านไม้สองชั้น 3 ห้องนอนที่ชั้นบน มีชานอยู่หลังบ้านด้วย(เป็นที่ๆ ชอบไปนั่งเล่น เพราะจะเห็นวิว ที่เป็นดอยอีกฝั่งของ อ.ปาย ตอนเช้าๆ จะบรรยากาศดีมาก) ส่วนด้านล่างเป็นที่โล่งๆ มีต้นลำไยต้นใหญ่อยู่ข้างบ้าน






รูปนี้เป็นรูปสมัยอนุบาล ในงานงานวันแม่ ได้แสดงละครเรื่องดาวลูกไก่ แสดงเป็นลูกไก่ จำได้ว่าวันแม่เมื่อใด เราจะต้องร้องไห้ทุกทีเมื่อถึงเวลาที่ต้องเอาดอกมะลิไปติดเสื้อให้แม่ ก็มันซึ้งนี่เนาะ แม่ก็ร้องไห้ทุกทีเหมือนกัน รูปนี้วาดออกมาจากรูปถ่ายอีกที เพื่อนๆ สมัยประถม ตอนนี้แต่งงานไปแค่ไม่กี่คนเอง มีแต่พวกขึ้นคานทอง แปลกแฮะ อายุก็ปูนนี้กันแล้ว (T.T)


สองรูปนี้เป็นการฝึกวาด อ่านจากหนังสือสอนวาดรูปอีกที วาดคน วาดโต๊ะตัวเอง วาดมือตัวเองมั่ง
ปล. รูปที่กำลังเขียนตัวพี : P นั่นคือตัวอักษรย่อของรุ่นพี่ที่แอบชอบนั่นเอง PP --> พี่โป้ง (-^^-) ยังนึกออกได้อีกนะ