บันทึกการปลูกผัก เตรียมปลูก 1

.. บันทึกการปลูกผัก ..

ด้วยดินที่บ้านจะเป็นดินเหนียวเลยต้องเอาดินปลูก กับเศษใบไม้ผสมๆเข้าไป สองวันก่อนพรวนดินตากแดดทิ้งเอาไว้ และเอาไม้ท่อนเล็กๆมาทำเป็นหลักกั้นเพื่อไม่ให้ดินไหลเวลาโดนฝนค่ะ

ที่จริงตามที่หาอ่านต้องตากดินทิ้งไว้ 7 วัน แต่เพราะความที่ใจร้อน  วันนี้เลยลงหว่านเมล็ดผักไปเรียบร้อย ฮ่า ฮ่า

** ในรูปด้านบน มิเนเจอร์ตัวดำๆ นั่นคือ "มะยมคุง"  บอดี้การ์ดในการทำสวนผักค่ะ (ชอบดมหาแมลงหรืองู)

จากรูป ด้านซ้ายมือจะเป็นพวกชะอม ขิง ข่า ขมิ้น ผักแค ผักเผ็ด ว่านหางจรเข้ และดอกโกศล ตรงกลางจะมีพริก ใบโหระพา มะเขือ ผักชีฝรั่ง และมะกรูด มะนาว ผักไผ่ กับขึ้นฉ่าย อยู่ในกระถาง ส่วนตะไคร้ที่เพิ่งลงดินจะอยู่ด้านขวา (เหมือนจะไม่ครบตามที่เขียน แต่มีครบนะคะ ^^ อย่างละนิดละหน่อย) ซึ่งทั้งหมดปลูกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนตรงกลาง กับตรงขอบกำแพงด้านนู้น คือที่ลงปลูกใหม่ ตรงกลางจะหว่านเมล็ดของผักคะน้าใบ , ผักกาด (พันธุ์อะไรจำไม่ได้ เป็นของเก่าซื้อนานแล้ว ไม่รู้จะงอกรึเปล่า) และผักชีที่เพิ่งซื้อมาใหม่

ตรงขอบด้านนู้นลงมะเขือยาว กับแตงกวาไว้ ลุ้นๆว่ามันจะงอกมั้ย >_< (แต่ก็ใช้วิธีเพาะเมล็ดในกระถางกันเหนียวไว้แล้ว)

เริ่มรักสุขภาพ เพราะความงก & ผัดมะเขือเครือ

เมื่อครึ่งปีที่แล้ว เริ่มศึกษาการบริหารเงินและการลงทุน และหาวิธีออมเงินเอาไว้สำหรับตอนแก่ ทำมาเรื่อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาเก็บออม และไม่ค่อยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไร รู้สึกมีความสุขที่มีเป้าหมาย (และมีเงิน 55) 

แล้ววันหนึ่งก็อ่านหนังสือที่บอกว่าการประหยัดที่ดีวิธีหนึ่งนั่นคือ รักษาตัวเองไม่ให้ป่วย เพราะถ้าป่วย เราจะต้องใช้เงินเยอะมากที่จะเอามาใช้รักษา เอ่อ แฮะ ก็จริง เงินออมที่มีอาจจะหายวั๊บไปกับตาเลยก็ได้

เมื่อคิดได้แบบนั้นก็เกิดอาการรักสุขภาพขึ้นมา และไปเจอบทความ ศาสตร์ ‘ห้าม 5 ต้อง 5' ของ นพ.บุญชัย อิศราพิสิษ สรุปเองคร่าวๆ ประมาณนี้

ข้อปฏิบัติ 5 ข้อคือ 

1. เน้นการกินพืชผักผลไม้ในแต่ละมื้อ  

2. กินข้าวกล้อง 

3. ออกกำลังกายวันละครึ่งชม. 

4. นอนหลับให้เพียงพอ 

5. มีจินตนาการเชิงบวก 

และข้อห้าม 5 ข้อคือ 

1. ห้ามจินตนาการเชิงบล 

2. ห้ามอ้วน 

3. ห้ามกินน้ำตาล 

4. ห้ามกินไขมันที่ผ่านความร้อน 

5. ห้ามกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 

อาจจะมีหลายข้อที่ยังทำไม่ได้แต่จะเริ่มด้วยการกินก่อน และวันนี้จะเริ่มบันทึกเกี่ยวกับการปลูกผัก และการกินเพื่อสุขภาพ

เริ่มด้วยมื้อแรกเริ่มด้วยผลของฟักแม้ว หรื่อที่บ้านเราเรียก มะเขือเครือ

รสชาดจะหวานๆ เอามาผัดใส่ไข่ แกง หรือต้มจืดก็ได้ แต่วันนี้เราเอามาผัดใส่ไข่ กับต้มในน้ำซุป

ถ้าให้อร่อยหน่อยก็ใส่พริกขี้หนูเยอะๆ พริกช่วยเจริญอาหารได้ ^^

กินกับข้าวกล้อง อร่อยมาก
** ไม้เน้นหน้าตานะคะ เพราะทำกินเอง 55

ว้าววววว ดีจังที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ตกหลุมรักเลย

รวมหนังที่เคยดูแบบไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้คาดหวัง พอได้ดูแล้วพูดได้เลยว่า "ว้าววววว ดีจังที่ได้ดูหนังเรื่องนี้"

1. Crazy, Stupid, Love.
ชอบเนื้อเรื่อง ชอบตัวละคร ดูแล้วฮา หัวเราะและยิ้มได้ตลอดเวลาที่ดูเลย เรื่องนี้ตกหลุมรักไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling)  เข้าอย่างจัง บ้าไรอันไปพักใหญ่ ต้องไล่หาหนังที่เค้าแสดงมาดู แต่ยังไม่อยากดูเรื่อง the notebook ที่เค้าเล่น เพราะกลัวบ้าดาราอีกรอบ

ยิ่งเห็นคลิปนี้ยิ่งตกหลุมรักเลย 555+


2. The Perks of Being a Wallflower
เรื่องนี้ก็ดูเพราะเอมม่า วัตสันคนเดียวเลย ไม่มีอะไรดู แต่พอได้ดูแล้ว รู้สึกมีความสุขจังเลยกับหนังเรื่องนี้ ชอบทั้งสามคนในเรื่อง โดยเฉพาะคนที่แสดงเป็นเกย์ หรือพ่อหนุ่มเซอร์อีซาร์ มิลเล่อร์ Ezra Miller เล่นได้มีเสน่ห์มาก ทำให้นึกถึงเรื่องก่อนหน้าที่เค้าเล่นเป็นเด็กโรคจิต ในหนัง we need to talk about kevin ชอบตั้งแต่ตอนนั้น คนอะไรหน้าแปลกๆแต่มีเสน่ห์

ถ้าใครได้ดูคงไม่มีใครไม่ชอบฉากงานเต้นรำ >_< ทำให้ต้องเก็บเพลง Come on eileen ไว้ในลิสอีกเพลง ฟังแล้วนึกถึงตอนฉากเต้นรำทุกที (ตอนชาร์ลีทำใจสู้ แล้วออกมาเต้น น่ารักมาก ^^)


3.  My Blueberry Nights

เรื่องนี้ ดูเมื่อนานมาแล้วน่าจะตอนปี 2010 ผ่านไป 3 ปี บังเอิญได้ยินเพลง The Greatest แล้วทำให้นึกถึงหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ Norah Jones นักร้องที่ชอบเป็นนางเอก แล้วก็มี Natalie Portman นางเอกขวัญใจแสดงด้วย
... ดูแล้วชอบมากเนื้อเรื่องเข้ากับชีวิตช่วงนั้น ผิดกันตรงที่ไม่ได้ออกเดินทางเหมือนนางเอก ตอนนั้นอยากจะเป็นเหมือน Norah Jones ผิดหวังในความรัก ตัวคนเดียว อยากกออกเดินทางไปเจอสิ่งใหม่ๆ พบเจอคนใหม่ๆ แต่ก็ได้แต่ฝัน ชีวิตจริงก็ได้แต่นั่งจินตนาการไปเท่านั้น
.. เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้รู้จักเพลงเพราะอีกเพลง นั่นคือเพลง The Greatest ฟังแล้วออกจะเศร้าๆแต่ก็ชอบ (ถึงนอร่าไม่ได้ร้องเองแต่ก็ชอบมาก)

... วันหลังนึกได้อีกจะมาเขียนต่อ ...


ส่วนหนังที่อยากดูแต่ยังไม่ได้ดูก็จะมีเรื่อง peace love & misunderstanding เท่าที่ดูตัวอย่างน่าจะสนุกดี

คิดบวกไปกับหนังสือ 8 พลัง เสกหนึ่งวันธรรมดากลายเป็นวันพิเศษ

หนังสือเล่มนี้ทำใหรู้สึกดีและมีความสุข กับชีวิตธรรมดาๆของเราเอง

เป็นหนังสือแปลจากนักเขียนญี่ปุ่นชื่อ โฮริคาวะ นามิ

รูปประกอบน่ารัก ตัวหนังสือไม่เยอะ แต่ทำให้เราจินตนาการได้ด้วยรูป

ตอนเริ่มอ่านจะรู้สึกว่า คนเขียนจะเพ้อไปใหน 

(เหมือนตอนที่เราเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่น อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นตาโต ความรู้สึกประมาณนั้นเลย โลกสวย อะไรก็สวยงามไปหมด)

แต่พอเปิดใจ และอ่านไปสักพัก ความรู้สึกมองโลกในแง่ดี ก็เกิดขึ้น

ทำให้มองเห็นอะไรก็สวยงาม มองทุกมุมของบ้านด้วยความสุข

 

ธรรมดาแล้ว มักจะอ่านหนังสือแบบค่อยๆอ่าน อ่านเมื่ออยากอ่าน

จำได้ว่าในวันอาทิตย์วันหนึ่ง รู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจหน่อยๆ ก็หยิบเล่มนี้ขึ้นมา

พออ่านแล้วก็รู้สึกดีและลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้าน และปักดอกไม้บนแจกัน

เป็นวันที่สดใสและมีความสุขวันหนึ่งเลยทีเดียว

เกี่ยวกับหนังสือ

หนังสือ 8 พลัง เสกหนึ่งวันธรรมดากลายเป็นวันพิเศษ

Hibi power

เรื่องและถาพ : โฮริคาวะ นามิ

อรรถ บุนนาค แปล

เขียนบล็อกในวันพักผ่อนแสนสบาย @บ้าน

อาทิตย์ 7 กรกฎา 2556

My home .. บรรยากาศชิลๆ ในวันอาทิตย์

บรรยากาศชิลๆ ในวันอาทิตย์ กับสองน้องหมา ยามประจำบ้าน

หลังจากเอาต้นไม้มาลงปลูก ก็ทำให้บ้านดูสวยขึ้นอีกนิด